ปรัชญาการศึกษา
1. ปรัชญาสารัตถนิยม (Essentialism)
2. ปรัชญาสาขานิรันตรนิยม (Perenialism)
3. ปรัชญาพิพัฒนนิยม (Progressivism)
4. ปรัชญาสาขาปฏิรูปนิยม (Reconstructionism)
5. ปรัชญาสาขาผสมผสาน (Eclecticism)
1.ปรัชญาสาขาสารัตถนิยม
สารัตถะ (Essence) หมายถึง สาระ หรือเนื้อหาที่เป็นหลักเป็นแก่นเป็น สิ่งสำคัญ
ปรัชญาสารัตถนิยมในทางการศึกษาก็คือ ปรัชญาที่ยึดเนื้อหาเป็นหลักสำคัญ ของการศึกษาและเนื้อหาที่สำคัญก็ต้องเน้นเนื้อหาที่ได้มาจากมรดก ทางวัฒนธรรม มีลักษณะหันไปหาและยึดกับอดีต ถ้าหากมีการเปลี่ยนแปลงก็ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลง เพื่อให้ความเชื่อและเนื้อหาของอดีตนั้นคงอยู่
จุดมุ่งหมายของการศึกษาปรัชญาสาขาสารัตถนิยม
1. ให้การศึกษาในสิ่งที่เป็นเนื้อหาสาระ ( Essential subject-matter ) อันได้จากมรดกทางวัฒนธรรม
2. ให้การศึกษาเพื่อการเรียนรู้ในเรื่องของความเชื่อ ทัศนคติและค่านิยมของสังคมในอดีต
3. ธำรงรักษาสิ่งต่างๆในอดีตเอาไว้
นอกจากนี้ปรัชญาสารัตถนิยมยังมุ่งการพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนมีระเบียบวินัยทำงานหนัก ใช้สติปัญญามากและรักษาอุดมคติอันดีงามของสังคมไว้ จุดมุ่งหมายของการศึกษาในปรัชญาแนวนี้จึงคลุมทั้งระดับใหญ่คือ สังคมและระดับบุคคลพร้อมกันองค์ประกอบของการศึกษาตามปรัชญาสาขาสารัตถนิยม
หลักสูตร ครู ผู้เรียน
1. หลักสูตร
เป็นหลักสูตรที่เน้นเนื้อหาเป็นหลักสำคัญเนื้อหาหลักๆก็คือเนื้อหาที่เกี่ยว กับความรู้ พื้นฐาน เช่น ภาษา ประวัติศาสตร์ คำนวณ นอกจากนี้หลักสูตรก็จะต้อง เน้นเนื้อหาที่ควรเน้นเป็นพิเศษคือเนื้อหาที่เกี่ยวเนื่องกับศิลปะค่านิยมและวัฒนธรรมของสังคมที่ควรรักษาไว้ในขณะเดียวกันความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ธรรมชาติก็ถือว่าเป็นสิ่งสำคัญที่บรรจุไว้ในหลักสูตรของปรัชญากลุ่มนี้
การคัดเลือกและสรรหาเนื้อหาในหลักสูตรรวมถึงการร่างหลักสูตรเป็นหน้าที่ของ ครูหรือผู้เชี่ยวชาญทั้งหมดเพราะครูและผู้เชี่ยวชาญเป็นคนซึ่งได้ผ่านการศึกษาอบรมอยู่แล้ว แบบแผนของหลักสูตรจึงมักจะเป็นแบบเดียวกันทั่วประเทศเพราะเป็นสิ่งที่ ควรธำรงรักษาและให้ได้มาตรฐาน อันเดียวกัน
2. ครู
ปรัชญาสาขาสารัตถนิยมนี้ ครูเป็นบุคคลสำคัญอย่างมากเพราะครูเป็นผู้ที่กำหนด ตัดสิน และดำเนินการเกี่ยวกับการศึกษาทั้งหมด ครูจึงมีบทบาทและความสำคัญอย่างมาก ถ้าได้ครูดีการศึกษาจะดำเนินไปด้วยดี การปรับปรุงและการเปลี่ยนแปลงทางการศึกษาจึงเริ่มที่ครูก่อน
3. ผู้เรียน
ผู้เรียนจะเป็นผู้เรียนรู้เป็นผู้สืบทอดค่านิยมไว้และสืบต่อให้กับคนรุ่นหลังต่อไป โดยเหตุนี้สถาบันการศึกษาจึงควรจะให้ความสนใจแก่เด็กเป็นพิเศษ
กระบวนการของการศึกษาตามปรัชญาสาขาสารัตถนิยม
1. กระบวนการเรียนการสอน
การเรียนการสอนจึงขึ้นอยู่กับครูเป็นสำคัญ คือ ครูจะเป็นผู้อธิบาย ชี้แจงให้นักเรียนเข้าใจตามให้ได้ลักษณะ การเรียนการสอนจึงเป็นไปในลักษณะที่เขียนเป็นแผนภาพง่ายๆ คือ
เนื้อหา
ครู นักเรียน
อธิบาย
ผู้รู้ ผู้ไม่รู้ (รู้น้อย)
ทำความกระจ่าง
ผู้รู้ดี ผู้ไม่รู้ชัดเจน
วิธีการเรียนและสอนในปรัชญาแนวนี้จึงเน้นการสอนแบบบรรยายเป็นหลัก แต่จะใช้วิธีการอื่นประกอบด้วยก็ได้ นอกจากนี้ก็ยังต้องการเน้นการฝึกฝนและสร้างผู้นำ ในกลุ่มด้วยโดยเหตุนี้การเรียนตามปรัชญาการศึกษานี้จึงเป็นงานหนักซึ่งเด็กทุกคน ถ้าทำงานหนักทุ่มเทให้กับการเรียนเต็มที่แล้วก็จะเรียนได้ดี การจัดห้องเรียนก็จะต้อง มีแบบแผนที่ชัดเจนเป็นห้องสี่เหลี่ยมที่นั่งเรียนเป็นแถว ครูอยู่หน้าห้องเรียน การจัดเวลาเรียนตารางสอนแน่นอนตามเวลาตายตัวการยืดหยุ่นมีได้บ้างแต่ครูจะต้อง เป็นผู้กำหนดเอง
2. กระบวนการบริหาร
ระบบบริหารเป็นแบบสั่งงาน (Bureaucratic Model) เป็นการบริหาร แบบรวมอำนาจไว้ที่ส่วนกลาง ผู้บริหารจะเป็นผู้ตัดสินใจดำเนินการและ ให้คำวินิจฉัยตัดสินปัญหาแต่เพียงคนเดียวคนอื่นๆ จะเป็นแต่เพียงผู้คอยรับคำสั่ง การบริหารจะยึดกฎเกณฑ์ยึดระเบียบยึดตัวบทกฎหมายเป็นหลักสำคัญ
3. บทบาทของโรงเรียนต่อชุมชน
มุ่งที่จะให้รู้เข้าใจจดจำนำไปใช้ได้ภายหลังสำหรับการรักษาและถ่ายทอดไว้ให้ กับคนรุ่นหลัง โรงเรียนมีบทบาทในฐานะที่เป็นเครื่องมือของสังคมเพื่อการเรียนรู้เข้าใจ เรื่องราวของสังคม ในขณะเดียวกันโรงเรียนก็พยายามที่จะให้เด็กเห็นคุณค่าของ วัฒนธรรมประเพณีเหล่านั้นเป็นหลักโดยเน้นการถ่ายถอดวัฒนธรรมและรักษาไว้เท่านั้น เพื่อความสงบสุขของสังคม
ข้อจำกัดตามปรัชญาสาขาสารัตถนิยม
1. โอกาสที่เด็กจะมีความคิดริเริ่ม เป็นตัวของตัวเองมีน้อย
2. เด็กมักจะไม่กล้าแสดงความเห็น ไม่กล้าแสดงออก คอยแต่รับฟัง
3. ไม่คำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคลของเด็กเท่าที่ควร
4. ถึงมีการเปลี่ยนแปลงได้บ้าง แต่การเปลี่ยนแปลงก็มักยึดของเดิมอยู่มาก
5. ไม่คำนึงถึงหลักการของประชาธิปไตยมากเท่าที่ควร
6. มักจะได้ประโยชน์โดยตรงกับคนกลุ่มน้อย
2.ปรัชญาสาขานิรันตรนิยม
ปรัชญาสาขานิรันตรนิยม นิรันตร (Perennial) นี้ โดยคำก็หมายถึง สิ่งซึ่งคงที่ ถาวรไม่เปลี่ยนแปลงเป็นนิรันดรปรัชญาแนวนี้จึงเชื่อว่ากาศึกษาควรจะได้สอนสิ่งซึ่งเป็นนิรันดรไม่เปลี่ยนแปลงมีคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยใด
จุดมุ่งหมายของการศึกษา ปรัชญาการศึกษาสาขานี้มีจุดมุ่งหมายที่การสร้างคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์เป็นคน ที่แท้จริง สร้างคนให้เป็นคนที่สมบูรณ์ได้นั้นก็จะต้องรู้จักและเข้าใจตัวเองพร้อมทั้งเห็นว่า ตัวเองนั้นมีพลังธรรมชาติอยู่ภายในแล้ว พลังธรรมชาติในที่นี้ก็คือสติปัญญาของมนุษย์ ถ้าสติปัญญาได้รับการขัดเกลาและพัฒนาอย่างดีพอ มนุษย์ก็จะทำอะไรอย่างมีเหตุผลเสมอ เป้าหมายของการศึกษาจึงควรเป็นไปเพื่อการพัฒนาคุณสมบัติในเชิงของสติปัญญาและ เหตุผลในตัวมนุษย์
องค์ประกอบของการศึกษาตามปรัชญาสาขานิรันตรนิยม
1. หลักสูตร
เป้าหมายของหลักสูตรในแนวนี้ก็คือ การฝึกฝนให้ผู้เรียนเป็นผู้ที่รู้จักใช้สติปัญญา เหตุผล และความรู้อย่างอิสระมีความคิดความอ่านกว้างขวาง ไม่ถูกครอบงำด้วยอวิชชา หรืออำนาจใฝ่ต่ำ หรือความไม่มีเหตุผลอื่นๆหลักสูตรตามปรัชญาการศึกษาสาขานี้ ให้ศึกษาเนื้อหาเช่นเดียวกับสารัตถนิยมแต่ สารัตถนิยมเน้นเนื้อหาเพื่อการเรียนรู้เข้าใจในฐานะเป็นมรดกทางวัฒนธรรมแต่นิรันตรนิยม ถือว่าเนื้อหาเป็นเครื่องมือที่นำไปสู่ความสามารถทางปัญญาเพื่อให้ผู้เรียนเป็นผู้นำที่ล้ำเลิศ ทางปัญญา
3. นักเรียน
เด็กเป็นผู้มีสติปัญญา มีศักยภาพอยู่ในตัวเองแล้วการเรียนรู้ และสติปัญญาจะเกิดขึ้นได้ดีก็ด้วยการฝึกฝนของเด็กเองด้วย ซึ่งตาม ปรัชญาสาขานี้ถือว่าเด็กมี ความสนใจใคร่รู้ใคร่เรียนอยู่แล้ว อย่างที่อริสโตเติลพูดไว้ว่า “All men by nature desire to know” ทำอย่างไรเราจึงจะทำให้ธรรมชาติของการอยากรู้อยากเห็นนี้เกิด
ประโยชน์
กระบวนการของการศึกษาตามปรัชญาสาขานิรันตรนิยม
1. กระบวนการเรียนการสอน
วิธีการเรียนการสอนเน้นการกระตุ้นและหนุนให้ศักยภาพของนักเรียนได้พัฒนาเติบโต มีความสมบูรณ์เต็มที่วิธีการที่สำคัญจึงเป็นวิธีการของ การถกเถียง อภิปรายการใช้เหตุผล สติปัญญาโต้แย้งกันการเรียนการสอนในปรัชญาสาขานี้จึงเน้นเหตุผลและสติปัญญา เป็นหลักสำคัญ
2. กระบวนการบริหาร
การบริหารตามปรัชญานิรันตรนิยมนี้ก็ยึดหลักของเหตุผล เช่นเดียวกัน กฎเกณฑ์ระเบียบมีอยู่แต่ควรจะใช้อย่างมีเหตุผลไม่ใช่ใช้ตามตัวอักษรแต่เพียง อย่างเดียวระเบียบปฏิบัติบางอย่างที่ไม่เหมาะสม ไม่ถูกต้อง ไม่มีเหตุผลเพียงพอ ควรได้รับการแก้ไขให้มีความเหมาะสมมากขึ้น
3. บทบาทต่อสังคม
ปรัชญาการศึกษาสาขานี้ไม่มีผลโดยตรงต่อสังคม เพราะเน้นที่ตัวบุคคล เป็นใหญ่แต่มีผลโดยทางอ้อมกับการสร้างบรรยากาศและสภาพแวดล้อม ทางสังคม มองอีกด้านหนึ่งปรัชญาในแนวนี้ก็เช่นเดียวกัน กับสารัตถนิยม คือ ทำหน้าที่ถ่ายทอดความรู้
ข้อจำกัดตามปรัชญาสาขานิรันตรนิยม
1. คนเรานั้นไม่ได้อยู่กับเหตุผลอย่างเดียวเราอยู่ด้วยความรู้สึกและการกระทำ ต่างๆ ประกอบกัน
2. ลักษณะการเรียนการสอนที่เน้นสติปัญญามากนั้นจะมีลักษณะเป็นทฤษฎี มากเกินไป
3. การจัดการศึกษาตามแนวของปรัชญานี้ต้องการเวลามาก และจะต้องมี ตำรับตำราเพียงพอ อีกทั้งครูจะต้องทำงานหนักเป็นนักคิดนักใช้เหตุผลด้วยซึ่ง ทำได้ไม่ง่ายนัก
3.ปรัชญาสาขาพิพัฒนนิยม
แนวคิดหลักของการศึกษาแบบพิพัฒนานิยม ก็คือการศึกษาจะต้องพัฒนา เด็กทุกด้านไม่เฉพาะสติปัญญาเท่านั้น โรงเรียนมีความสัมพันธ์มากขึ้นเด็กจะต้อง พร้อมที่จะไปอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ปรับตัวได้อย่างดี กระบวนการเรียนการสอน จึงมีความสำคัญพอๆกับเนื้อหา เรื่องของปัจจุบันมีความสำคัญกว่าอดีตหรืออนาคต
จุดมุ่งหมายของการศึกษาตามปรัชญาพิพัฒนนิยม
การศึกษาตามปรัชญาพิพัฒนนิยมมองว่าการศึกษาจะต้องให้การศึกษาทุกด้าน ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ สังคม อาชีพ และสติปัญญาควบคู่กันไปกับความสนใจ ความถนัด และลักษณะพิเศษของผู้เรียนควรได้รับความสนใจและได้รับการส่งเสริม ให้มากที่สุด สิ่งที่เรียนที่สอนควรเป็นประโยชน์สัมพันธ์สอดคล้องกับชีวิตประจำวัน และสังคมของผู้เรียนให้มากที่สุด
องค์ประกอบของการศึกษาตามปรัชญาพิพัฒนนิยม
1. หลักสูตร
หลักสูตรในปรัชญาสาขานี้ เน้นที่ประสบการณ์ของผู้เรียนเป็นหลักสำคัญ
ประสบการณ์นั้นควรเป็นประสบการณ์ที่สัมพันธ์กับสังคมเนื้อหาที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษคือ สังคมศึกษา และวิชาการสื่อความหมายเพื่อประโยชน์ในชีวิต ประจำวัน (ภาษา) วิชาวิทยาศาสตร์ และคณิตศาสตร์ก็ถือว่าสำคัญแต่เป็น ความสำคัญในแง่ของวิธีการคือ วิธีการทางวิทยาศาสตร์ (Scientific medthod)
2. ครู
ในปรัชญาสาขานี้ทำหน้าที่ คือการเตรียมการแนะนำและการให้คำปรึกษาเป็น หลักสำคัญ
บทบาทที่สำคัญของครู คือ ครูจะต้องเป็นผู้กระตุ้น หนุน และหนี ในระยะแรกครู จะต้องกระตุ้นให้เด็กได้สนใจด้วยตนเอง เมื่อเด็กทำเองได้แล้ว ฃครูจึงควรจะหนีออกให้ เด็กทำเอง เรียนรู้เอง คอยดูแลอยู่ห่างๆลักษณะของครูตามปรัชญาสาขานี้จะต้องมี บุคลิกที่ดี เห็นอกเห็นใจและเข้าใจความแตกต่างระหว่างบุคคลของเด็ก
3. นักเรียน
ผู้เรียนมีอิสระที่จะเลือกตัดสินใจด้วยตนเองมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียน การสอนและมีส่วนที่จะเลือกเนื้อหาและกิจกรรมที่ตนเองสนใจได้มากขึ้น แต่ก็ไม่ได้ หมายความว่า นักเรียนจะร่างหลักสูตรหรือกำหนดกิจกรรมเสียเอง แต่เป็นการทำงาน ร่วมกัน เพื่อให้การเรียนการสอนตรงตามความต้องการของผู้เรียนเหมาะสมแก่ความถนัด และความสามารถของนักเรียนมากขึ้น
กระบวนการของการศึกษาตามปรัชญาพิพัฒนนิยม
1. กระบวนการเรียนการสอน
(1) การเรียนการสอนเน้นที่ความสนใจและความถนัดของผู้เรียน
(2) การเรียนการสอนควรให้เด็กมีส่วนร่วมในการวางแผน
(3) ครูเป็นผู้จัดสิ่งแวดล้อมให้เด็กเรียนรู้ด้วยตนเอง
(4) เด็กควรได้รับประสบการณ์ตรงในเรื่องที่ศึกษา
(5) เด็กควรได้รับประสบการณ์ที่น่าสนใจ ชักจูงใจ เช่น การใช้ภาพยนตร์ สไลด์ เชิญวิทยากร ฯลฯ
(6) ผู้เรียนควรได้รับความช่วยเหลือให้รู้จักวิเคราะห์ปัญหาหาข้อมูลเพื่อแก้ปัญหาวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ
(7) ผู้เรียนควรได้รูจักการวางโครงการ ดำเนินโครงการ วิเคราะห์ และประเมินโครงการต่างๆ ได้ อย่างเหมาะสม
(8) ส่งเสริมประชาธิปไตยและความร่วมมือกันในการเรียนการสอน
(9) การเรียนควรเป็นกระบวนการต่อเนื่องเกี่ยวพันกันตลอดเวลา
2. กระบวนการบริหาร
การบริหารตามปรัชญาสาขานี้ ถือหลักเดียวกับการเรียนการสอน คือ การร่วมมือกัน โรงเรียนจะมีคณะกรรมการโรงเรียนซึ่งประกอบไปด้วยบุคคลหลายฝ่ายมารวมกันปรึกษา วางนโยบายและตัดสินปัญหาต่างๆ ของโรงเรียน ผู้บริหารจะเป็นผู้ดำเนินงานไปตามข้อตกลง หรือตามมติของคณะกรรมการ
3. บทบาทของโรงเรียนต่อชุมชน
การศึกษาเป็นวิธีการหลักในการปฏิรูปหรือปรับปรุงสังคม ก่อนอื่นโรงเรียน จะต้องเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสังคมเสียก่อน ยอมรับการเปลี่ยนแปลงของสังคม โรงเรียนก็จะมีโอกาสสร้างนักเรียนในลักษณะใหม่ ที่มีสติปัญญา มีความพร้อม มีความรู้จักและเข้าใจสังคมอย่างดีพอ ออกไปปรับปรุงและพัฒนาสังคมได้
ข้อจำกัดตามปรัชญาพิพัฒนนิยม
ในสังคมที่ยึดระเบียบแบบแผนประเพณีอย่างมากนั้นปรัชญาพิพัฒนนิยม อาจจะก่อให้เกิดปัญหากับสังคมและตัวเด็กเองได้ เพราะถ้าในโรงเรียนส่งเสริม อิสรเสรี แต่นอกโรงเรียนยึดแต่ประเพณีเด็กก็จะเกิดความขัดแย้งในใจและก่อให้เกิด ความสับสน
4.ปรัชญาสาขาปฏิรูปนิยม
ปรัชญาการศึกษาสาขาพิพัฒนนิยมที่มีจุดมุ่งหมายในส่วนที่เกี่ยวกับสังคมข้อหนึ่ง คือ การศึกษามีความสัมพันธ์กับสังคม แต่ปรัชญาปฏิรูปนิยม (Reconstructionism) นี้ไปไกลกว่านั้น คือ เห็นว่าการศึกษาควรจะช่วยปรับปรุงพัฒนา หรือกล่าวรวมๆ ว่าปฏิรูปสังคมนั้นเอง
จุดมุ่งหมายของการศึกษาของปรัชญาสาขาปฏิรูปนิยม
1. การศึกษาจะต้องช่วยแก้ปัญหาของสังคม
2. การศึกษาจะต้องเป็นไปเพื่อส่งเสริม พัฒนาสังคมโดยตรง
3. การศึกษาจะต้องมุงสร้างระเบียบใหม่ของสังคมจากพื้นฐานเดิมที่มีอยู่
4. ระเบียบใหม่ที่สร้างขึ้นรวมทั้งวิธีสร้างต้องอยู่บนรากฐานของประชาธิปไตย
5. การศึกษาจะต้องให้เด็กเห็นความสำคัญของสังคมควบคู่ไปกับตนเอง
องค์ประกอบของการศึกษาของปรัชญาสาขาปฏิรูปนิยม
1.หลักสูตร
ผู้เรียนจะต้องเข้าใจหลักและเข้าใจสภาพของสังคมอย่างดี โดยทั่วไป หลักสูตรในสาขานี้จะประกอบไปด้วยกลุ่มต่างๆ คือ กลุ่มปฐมนิเทศ สร้างแรงจูงใจ กลุ่มเศรษฐกิจและการเมือง กลุ่มทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มศิลปะ กลุ่มการศึกษา กลุ่มมนุษยสัมพันธ์ กลุ่มเทคนิคและ วิธีการต่างๆ
องค์ประกอบของการศึกษาของปรัชญาสาขาปฏิรูปนิยม
ในแต่ละกลุ่มการศึกษาในสภาพปัจจุบันและความเป็นมาพร้อมกันไปซึ่งทำ ให้ผู้เรียนเข้าใจปัญหาและมองเห็นสาเหตุของปัญหาได้ชัดเจนและศึกษาจาก สภาพที่ใกล้ตัวขยายอออกไปถึงสังคมวงนอก นอกจากนั้นในแต่ละระดับก็จะ จัดเนื้อหาให้มีความซับซ้อนแตกต่างกันออกไป ในระดับมหาวิทยาลัยควรจะ เน้นวิจัยเป็นพิเศษ
2.ครู
ครูจะต้องเป็นนักบุกเบิก เป็นนักแก้ปัญหา สนใจและใฝ่รู้ในทุกเรื่องครูจะต้องมี ทักษะในการรวบรวม สรุป และวิเคราะห์ปัญหา (วิจัย) ให้ผู้เรียนเห็นได้
ลักษณะสำคัญของครูในปรัชญานี้อีกประการหนึ่งก็คือมีความเป็นประชาธิปไตย
3.นักเรียน
เด็กจะเห็นประโยชน์ที่เกิดขึ้นกับตังเองน้อยลง แต่เห็นประโยชน์ ของสังคมมากขึ้น เด็กจะได้รับการปลูกฝังให้เรียนรู้วีธีการทำงานร่วมกันนักเรียนควรที่จะได้เรียนรู้และรับทราบถึงข้อมูลต่างๆ อย่างละเอียด และเปิดเผยตรงไปตรงมา และควรจะได้หาข้อสรุปอันเป็นทางเลือกที่ เหมาะสมและยุติธรรม
กระบวนการของการศึกษาของปรัชญาสาขาปฏิรูปนิยม
1. กระบวนการเรียนการสอน
ให้เด็กเรียนรู้ด้วยตัวเอง ลงมือทำเอง มองเห็นปัญหา และเข้าใจเรื่องราว ต่างๆ ด้วยตนเอง
สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งทฤษฏีและปฎิบัติจะควบคู่กันไปในกรณีที่ การปฏิบัติจริงกระทำไม่ได้ก็จะใช้บทบาทสมมุติ (Role Play) แทนแต่เป้าหมาย ปลายทางจะต้องคำนึงถึงการนำความรู้ไปใช้ได้ด้วย
2.กระบวนการบริหาร
ยึดหลักของการบริหารแบบประชาธิปไตยจะต้องจ่ายอำนาจไปอย่าง แท้จริงในโรงเรียน ครู ผู้ปกครอง และนักเรียนจะต้องมีบทบาทในการวางนโยบายและ การดำเนินการให้มากที่สุด
3.บทบาทของโรงเรียนต่อชุมชน
ร่วมแก้ปัญหาของสังคมและส่งเสริมสนับสนุนรวมทั้งสร้างสังคมใหม่ที่เหมาะสม ถูกต้อง เป็นธรรมและเป็นประชาธิปไตย
ข้อจำกัด
ถ้าระบบและบรรยากาศทางการเมืองไม่เอื้ออำนวยต่อการเปลี่ยนแปลงแล้ว ปรัชญาการศึกษาสาขานี้ก็สำเร็จได้ยาก การที่โรงเรียนจะไปเปลี่ยนระบบค่านิยม ของสังคมก็มีโอกาสเป็นไปได้น้อย เว้นแต่สังคมนั้นจะมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนแปลง อยู่แล้ว ซึ่งการเปลี่ยนแปลงอาจเกิดขึ้นได้ ถ้าการเปลี่ยนแปลงนั้นเหมาะสมกับ สภาพและปัญหาที่เกิดขึ้นในสังคม
5.ปรัชญาการศึกษาผสมผสาน
เนื่องจากปรัชญาการศึกษาแต่ละปรัชญาล้วนมีแง่มุมและมีจุดเด่นกันไปคนละ แบบจึงมีการเอาประเด็นต่างๆของปรัชญามากกว่า 1 ปรัชญามาผสมผสานขึ้นเพื่อ นำไปใช้ในสถานการณ์ที่ต้องการ
การจัดกระบวนการเรียนรู้ของปรัชญาการศึกษาผสมผสาน
1. จัดเนื้อหาสาระและกิจกรรมให้สอดคล้องกับความสนใจและความถนัดของ ผู้เรียนโดยคำนึงถึงความแตกต่างระหว่างบุคคล
2. ฝึกทักษะ กระบวนการคิด การจัดการ การเผชิญสถานการณ์ และการประยุกต์ ความรู้มาใช้เพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหา
3. จัดกิจกรรมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง ฝึกการปฏิบัติให้ทำได้ คิดเป็น และทำเป็น รักการอ่านและเกิดการใฝ่รู้อย่างต่อเนื่อง
4. จัดการเรียนการสอนโดยผสมผสานสาระความรู้ด้านต่าง ๆ อย่างได้สัดส่วน สมดุลกันรวมทั้งปลูกฝังคุณธรรมค่านิยมที่ดีงามและคุณลักษณะอันพึงประสงค์ไว้ ในทุกวิชา
5. ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สอนสามารถจัดบรรยากาศ สภาพแวดล้อม สื่อการเรียน และอำนวยความสะดวกเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ และมีความรอบรู้รวมทั้งสามารถ ใช้การวิจัยเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรียนรู้
6. จัดการเรียนรู้ ให้เกิดขึ้นได้ทุกเวลาทุกสถานที่มีการประสานความร่วมมือ กับบิดามารดา ผู้ปกครอง และบุคคลในชุมชนทุกฝ่ายเพื่อร่วมกันพัฒนาผู้เรียนตาม ศักยภาพ
แหล่งอ้างอิง
https://prezi.com/jltnrddmpf2x/philosophy-of-education/
จัดทำโดย
นาย ทิวานนท์ โพธิ์โต
วิศวกรรมอุตสาหการ
356120251018
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น